เจาะลึกพื้นไม้ SPC: วัสดุปูพื้นที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน

พื้นไม้ SPC (Stone Plastic Composite) ทางเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นหลายประการ ทำให้วัสดุชนิดนี้สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างครอบคลุมในทุกพื้นที่ บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับพื้นไม้ SPC อย่างละเอียด ตั้งแต่องค์ประกอบ คุณสมบัติ ข้อดีข้อเสียพื้นไม้ spc ไปจนถึงการเลือกซื้อและการดูแลรักษา

พื้นไม้ SPC คืออะไร?

พื้นไม้ SPC เป็นวัสดุปูพื้นประเภท Luxury Vinyl Flooring (LVF) รุ่นใหม่ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อแก้ไขข้อจำกัดของวัสดุปูพื้นแบบดั้งเดิม โดยมีองค์ประกอบหลักคือ หินปูนผง (Calcium Carbonate) ผสมกับพอลิไวนิลคลอไรด์ (PVC) และสารเติมแต่งอื่นๆ ทำให้ได้วัสดุที่มีความแข็งแรง ทนทาน และมีความเสถียรสูง

องค์ประกอบของพื้นไม้ SPC

พื้นไม้ SPC ประกอบด้วยชั้นต่างๆ ดังนี้:

  1. ชั้นเคลือบผิวป้องกันการสึกหรอ (Wear Layer) – เป็นชั้นบนสุดที่ช่วยป้องกันรอยขีดข่วนและการสึกหรอ
  2. ชั้นฟิล์มตกแต่งลายไม้ (Decorative Layer) – ชั้นที่มีลวดลายและสีสันต่างๆ
  3. ชั้นแกนกลาง SPC (Core Layer) – เป็นส่วนประกอบหลักที่ให้ความแข็งแรงและเสถียรภาพ
  4. ชั้นรองพื้น (Backing Layer) – ช่วยในการติดตั้งและเพิ่มความทนทาน

คุณสมบัติเด่นของพื้นไม้ SPC

ความแข็งแรงทนทาน  พื้นไม้ SPC มีความแข็งแรงสูงกว่าวัสดุปูพื้นประเภทอื่นๆ ในตลาด สามารถรับน้ำหนักได้ดี ทนต่อการขูดขีด และไม่บวมน้ำ ทำให้เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีการใช้งานหนัก เช่น ครัวเปิด welcome foyer หรือพื้นที่สาธารณะ

การกันน้ำ  คุณสมบัติการกันน้ำ 100% เป็นจุดเด่นสำคัญของพื้นไม้ SPC ทำให้สามารถติดตั้งใกล้พื้นที่เปียกชื้นได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการบวมน้ำหรือเสียหาย 

ความเสถียรต่ออุณหภูมิ พื้นไม้ SPC มีความเสถียรต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิสูง ไม่ขยายหรือหดตัวมากเมื่ออุณหภูมิเปลี่ยนแปลง ทำให้ไม่เกิดปัญหาการโก่งงอหรือแยกตัวของแผ่นพื้น

การติดตั้งง่าย  ระบบล็อคแบบคลิกล็อคทำให้การติดตั้งทำได้ง่าย ไม่จำเป็นต้องใช้กาวและสามารถติดตั้งทับพื้นเดิมได้เช่นพื้นกระเบื้อง แต่พื้นเดิม ต้องอยู่ในสภาพที่แข็งแรง เรียบเนียน เท่านั้น

การเลือกซื้อพื้นไม้ SPC

ปัจจัยที่ควรพิจารณา

  1. ความหนาของแผ่น

     – แนะนำความหนารวม 4-6 มิลลิเมตร สำหรับที่พักอาศัย

     – 6-8 มิลลิเมตร สำหรับพื้นที่เชิงพาณิชย์

  1. ความหนาของชั้นผิวป้องกันการสึกหรอ

     – 0.3 มิลลิเมตร สำหรับพื้นที่ใช้งานทั่วไป

     – 0.5-0.7 มิลลิเมตร สำหรับพื้นที่ใช้งานหนัก

  1. คุณภาพการผลิต

     – เลือกผู้ผลิตที่ได้รับมาตรฐานการผลิตที่น่าเชื่อถือ

     – ตรวจสอบการรับประกันสินค้า

  1. ลวดลายและสีสัน

     – เลือกให้เข้ากับสไตล์การตกแต่ง

     – พิจารณาความทนทานของสีและลวดลาย

การดูแลรักษา

การทำความสะอาดประจำวัน

     – ใช้ไม้กวาดหรือเครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดเป็นประจำ

     – เช็ดด้วยผ้าชุบน้ำบิดหมาด

     – หลีกเลี่ยงการใช้น้ำมากเกินไป

การดูแลระยะยาว

     – ใช้แผ่นรองเฟอร์นิเจอร์เพื่อป้องกันรอยขูดขีด

     – หลีกเลี่ยงการลากเฟอร์นิเจอร์หนักบนพื้น

     – ทำความสะอาดคราบสกปรกทันทีที่เกิดขึ้น

 

 

การประยุกต์ใช้งานในพื้นที่ต่างๆ

ห้องนั่งเล่น

  • สร้างบรรยากาศอบอุ่น
  • ทนต่อการใช้งานหนัก
  • รองรับเฟอร์นิเจอร์หนักได้ดี

ห้องนอน

  • ดูดซับเสียงได้ดี
  • ให้ความรู้สึกอบอุ่นเมื่อสัมผัส
  • ง่ายต่อการทำความสะอาด

ห้องครัว

  • ทนต่อความชื้น
  • ทนต่อคราบน้ำมันและอาหาร
  • ทำความสะอาดง่าย

ร้านค้า

  • ทนต่อการเดินผ่านหนาแน่น
  • ดูแลรักษาง่าย
  • สวยงามดึงดูดลูกค้า

สำนักงาน

  • ลดเสียงรบกวน
  • ทนต่อน้ำหนักเฟอร์นิเจอร์สำนักงาน
  • ดูเป็นมืออาชีพ

โรงแรม

  • เพิ่มความหรูหรา
  • ทนต่อการใช้งานหนัก
  • ดูแลรักษาง่าย

พื้นไม้ SPC เป็นวัสดุปูพื้นที่มีความโดดเด่นในด้านความแข็งแรง ความทนทาน และความสวยงาม สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งในที่พักอาศัยและพื้นที่เชิงพาณิชย์ การเลือกซื้อและติดตั้งอย่างถูกต้อง รวมถึงการดูแลรักษาที่เหมาะสม จะช่วยให้พื้นไม้ SPC มีอายุการใช้งานที่ยาวนานและคงความสวยงามได้อย่างยั่งยืน ด้วยคุณสมบัติที่ครบครัน ทำให้พื้นไม้ SPC เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่กำลังมองหาวัสดุปูพื้นที่ตอบโจทย์การใช้งานในทุกด้าน