ไม้พื้นสังเคราะห์/พื้นไม้เทียม
ไม้พื้นสังเคราะห์/พื้นไม้เทียมคืออะไร?
คือ วัสดุปูพื้นที่ผลิตขึ้น เพื่อใช้ทดแทนไม้จริง โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อลดการใช้ไม้ธรรมชาติ และเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคที่มีข้อจำกัดด้านงบประมาณ หรือต้องการวัสดุที่ดูแลรักษาง่ายกว่าไม้จริง
ไม้พื้นสังเคราะห์ หรือพื้นไม้เทียม ถือเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งในด้านความสวยงามและความคุ้มค่าในระยะยาว ด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ทำให้วัสดุประเภทนี้มีคุณภาพสูงขึ้น สามารถทนต่อสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงได้ดี จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เจ้าของบ้าน นักออกแบบ และผู้รับเหมาต่างเลือกใช้ไม้พื้นสังเคราะห์ในการตกแต่งพื้นที่มากขึ้น
ด้วยลักษณะภายนอกคล้ายกับไม้ธรรมชาติแต่มีคุณสมบัติที่เหนือกว่าหลายประการ เช่น ทนต่อความชื้น ปลวก และเชื้อรา รวมถึงมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า
ไม้พื้นสังเคราะห์จึงเริ่มได้รับความนิยมในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา โดยพัฒนาให้เป็นวัสดุที่สามารถใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น ทั้งงานตกแต่งภายใน และภายนอก
วัสดุที่ใช้ในการผลิตไม้พื้นสังเคราะห์
- ไฟเบอร์ซีเมนต์ (Fiber Cement): ทำจากปูนซีเมนต์ เส้นใยสังเคราะห์ และทราย มีความแข็งแรงสูงและทนทานต่อความชื้น
- ไม้พลาสติกคอมโพสิต (Wood Plastic Composite – WPC): ผสมผสานระหว่างผงไม้และพลาสติกเพื่อให้มีความแข็งแรงและทนทานต่อสภาพอากาศ
- วัสดุอื่น ๆ: เช่น พีวีซี (PVC) หรือโพลีเมอร์ชนิดต่าง ๆ เช่น Vinyl ที่เพิ่มคุณสมบัติพิเศษให้กับไม้พื้นสังเคราะห์
ประโยชน์ของไม้พื้นสังเคราะห์/พื้นไม้เทียม
- ทนทานต่อทุกสภาพอากาศ ไม้พื้นสังเคราะห์ถูกออกแบบมาให้ทนต่อสภาพอากาศที่หลากหลาย ทั้งแดด ฝน และความชื้นสูง ไม่บวมหรือโก่งตัวง่ายเหมือนไม้จริง จึงสามารถใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร
- กันน้ำและความชื้น 100% พื้นไม้เทียมบางประเภท เช่น SPC และ WPC สามารถกันน้ำได้ 100% จึงเหมาะสำหรับติดตั้งในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง เช่น ห้องน้ำ ห้องครัว หรือพื้นที่กลางแจ้ง ช่วยลดปัญหาการผุพังและเชื้อรา
- ป้องกันปลวกและแมลง หนึ่งในปัญหาใหญ่ของไม้จริงคือการถูกปลวกและแมลงกัดกิน แต่ไม้พื้นสังเคราะห์ไม่มีส่วนประกอบของเนื้อไม้จริง จึงไม่มีปัญหาเรื่องปลวกและแมลงรบกวน ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการกำจัดปลวกในอนาคต
- ดูแลรักษาง่าย ไม้พื้นสังเคราะห์ไม่ต้องขัดหรือลงน้ำยารักษาเนื้อไม้เหมือนไม้จริง สามารถทำความสะอาดได้ง่ายด้วยน้ำเปล่าหรือผ้าชุบน้ำสบู่อ่อน ๆ ช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา
- ติดตั้งง่ายและรวดเร็ว ไม้พื้นสังเคราะห์รุ่นใหม่มีระบบติดตั้งแบบ คลิกล็อก (Click Lock) และ คลิปล็อก (Clip Lock) ทำให้สามารถติดตั้งได้รวดเร็ว ไม่ต้องใช้กาวหรือตะปูเหมือนไม้จริง
- มีดีไซน์และสีสันหลากหลาย ไม้พื้นสังเคราะห์มีให้เลือกหลายสี หลายลวดลาย ตั้งแต่ลายไม้ธรรมชาติไปจนถึงสีสมัยใหม่ เช่น โทนเทา ขาว หรือดำ สามารถนำไปตกแต่งให้เข้ากับทุกสไตล์บ้านได้ง่าย
- ปลอดภัยต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ไม้พื้นสังเคราะห์ที่มีคุณภาพดีมักผลิตจากวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปราศจากสารเคมีอันตราย อีกทั้งบางรุ่นยังมีพื้นผิวกันลื่น ช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุ เหมาะสำหรับบ้านที่มีเด็กและผู้สูงอายุ
Our Products
Why Choose Us ?
คุณภาพมาตรฐานระดับสากล
ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูงและผ่านกระบวนการผลิตที่ทันสมัย เพื่อให้ได้ไม้เทียมที่มีความแข็งแรง ทนทานต่อสภาพอากาศทั้งในร่มและกลางแจ้ง ไม่ว่าจะเป็นฝน แดด หรือความชื้น ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในทุกพื้นที่
รักษ์สิ่งแวดล้อม
ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ไม้เทียมของเราไม่เพียงแต่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิลเท่านั้น แต่ยังช่วยลดการตัดไม้ทำลายป่า จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนติดตั้งง่ายและประหยัดเวลา
ไม้เทียมของ KSwood ถูกออกแบบมาให้ติดตั้งง่ายและรวดเร็ว ด้วยระบบล็อคที่มีประสิทธิภาพ ลดเวลาในการติดตั้งและค่าแรง ทำให้ลูกค้าประหยัดทั้งเงินและเวลาการรับประกันที่น่าเชื่อถือ
มอบความมั่นใจให้ลูกค้าด้วยการรับประกันสินค้าในระยะยาว แสดงถึงความเชื่อมั่นในคุณภาพของผลิตภัณฑ์ และช่วยให้ลูกค้ามั่นใจในการเลือกใช้สินค้าบริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม
ไม่เพียงแต่ใส่ใจในคุณภาพสินค้า แต่ยังใส่ใจในบริการหลังการขาย ด้วยทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำปรึกษาและช่วยแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็วความไว้วางใจจากบริษัทชั้นนำ
บริษัทชั้นนำจากหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น ก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ และตกแต่งภายใน ได้เลือกใช้ไม้เทียมของ KSwood ในโครงการต่างๆ โดยเฉพาะในโครงการที่ต้องการสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้าและคู่ค้า
Reference
ประเภทของระแนงไม้เทียม
ไม้พื้นสังเคราะห์สำหรับใช้งานภายนอก
คุณสมบัติและลักษณะเฉพาะ
- ทนแดด ทนฝน – ไม้พื้นสังเคราะห์สำหรับภายนอกถูกออกแบบให้ทนต่อสภาพอากาศที่รุนแรง ไม่โก่งตัว บิดงอ หรือแตกร้าวง่ายเมื่อโดนแดดและฝนเป็นเวลานาน
- กันน้ำและความชื้น – วัสดุสามารถกันน้ำได้ดี ไม่ดูดซับความชื้น และคราบสกปรก ช่วยป้องกันปัญหาเชื้อราและการผุพัง
- ป้องกันปลวกและแมลง – ไม่มีส่วนประกอบของไม้จริง จึงไม่เป็นแหล่งอาหารของปลวก มอด หรือแมลงกัดกิน
- พื้นผิวกันลื่น – บางรุ่นมีพื้นผิวที่ช่วยลดการลื่นไถล เหมาะสำหรับพื้นที่เปียกหรือกลางแจ้ง
- ทนต่อแรงกระแทกและรอยขีดข่วน – พื้นไม้เทียมภายนอกมีความแข็งแรงสูง รองรับแรงกระแทกและทนต่อการใช้งานหนัก
การใช้งานที่เหมาะสม
- พื้นระเบียงและชานบ้าน – สามารถใช้ปูพื้นระเบียงหรือชานบ้านเพื่อเพิ่มความสวยงามและความเป็นธรรมชาติ
- พื้นรอบสระว่ายน้ำ – ด้วยคุณสมบัติกันน้ำและกันลื่น จึงเหมาะสำหรับพื้นที่รอบสระว่ายน้ำ
- พื้นสวนและลานกลางแจ้ง – ใช้แทนไม้จริงสำหรับพื้นทางเดินในสวน หรือลานอเนกประสงค์กลางแจ้ง
- พื้นดาดฟ้าและพื้นที่นั่งเล่นกลางแจ้ง – เพิ่มบรรยากาศสวยงามและดูอบอุ่นโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการเสื่อมสภาพจากแดดและฝน
ไม้พื้นสังเคราะห์สำหรับใช้งานภายใน
คุณสมบัติและลักษณะเฉพาะ
- กันน้ำและความชื้นในระดับสูง – ไม้พื้นสังเคราะห์สำหรับภายในสามารถกันน้ำและความชื้นได้ดี โดยเฉพาะรุ่น SPC (Stone Plastic Composite) ที่กันน้ำได้ 100%
- ให้สัมผัสคล้ายไม้จริง – มีลวดลายและพื้นผิวที่เลียนแบบไม้ธรรมชาติ ทำให้บ้านดูหรูหราและอบอุ่น
- ลดเสียงและซับแรงกระแทก – ช่วยลดเสียงรบกวนจากการเดิน และมีความยืดหยุ่นช่วยซับแรงกระแทก ทำให้เดินสบายขึ้น
- ติดตั้งง่ายและรวดเร็ว – ส่วนใหญ่มาพร้อมระบบ คลิกล็อก (Click Lock) 2G และ 5G ติดตั้งได้โดยไม่ต้องใช้กาว
- ปลอดภัยต่อสุขภาพ – ไม่มีสารระเหยอันตราย (Formaldehyde-Free) เหมาะสำหรับบ้านที่มีเด็กและสัตว์เลี้ยง
การใช้งานที่เหมาะสม
- พื้นห้องนั่งเล่นและห้องรับแขก – ให้ความรู้สึกอบอุ่นและเป็นธรรมชาติ เพิ่มบรรยากาศที่น่าอยู่
- พื้นห้องนอน – พื้น WPC สำหรับภายใน ให้สัมผัสที่นุ่มสบายแบบไม้ธรรมชาติ เดินแล้วไม่เย็นเท้าเหมือนกระเบื้อง
- พื้นห้องครัว – หากใช้ไม้พื้นสังเคราะห์ที่กันน้ำได้ดี เช่น SPC Flooring จะช่วยป้องกันปัญหาความชื้นและคราบน้ำมัน
- พื้นสำนักงานและพื้นที่เชิงพาณิชย์ – เพิ่มความสวยงาม ทันสมัย และดูแลรักษาง่าย
การเลือกใช้ไม้พื้นสังเคราะห์/พื้นไม้เทียมในการตกแต่ง
ไม้พื้นสังเคราะห์สำหรับใช้งานภายนอก
- เลือกวัสดุที่มีความทนทานต่อสภาพอากาศ ทนต่อแสงแดด ฝน และความชื้น วัสดุมีการเคลือบสารป้องกัน UV เพื่อป้องกันสีซีดจาง
- ความทนทานต่อการใช้งาน พิจารณาความแข็งแรงและทนทานต่อการรับน้ำหนัก
- เลือกวัสดุที่ดูแลรักษาและทำความสะอาดง่าย ไม่ต้องดูแลรักษามาก วัสดุที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี Coextrusion ช่วยป้องกันการเกิดเชื้อราและตะไคร่น้ำได้ดีกว่า
- ความปลอดภัย เลือกวัสดุที่มีผิวสัมผัสกันลื่นเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
- ความสวยงามเลือกสีและลวดลายที่เข้ากับสไตล์การตกแต่งบ้าน พื้นไม้เทียมจะมีการผลิตสีที่แลนดอมไล่ระดับเพื่อความเป็นธรรมชาติให้มากที่สุด
- การติดตั้งที่ง่าย และมีรูปแบบการติดตั้งที่ชัดเจน มีการเว้นระยะ ระหว่างรอยต่อหัวไม้ เพื่อรองรับการยืดขยายตัวของวัสดุเมื่อเกิดอากาศร้อน
- การบริการหลังการขาย และระยะการรับประกันสินค้าที่เหมาะสม โดยทั่วไปการรับประกันสินค้าจะอยู่ที่ 10-25 ปี ระยะเวลาการรับประกันที่มากกว่า แสดงถึงความมั่นใจในคุณภาพของสินค้าจากผู้ผลิต
ไม้พื้นสังเคราะห์สำหรับใช้งานภายใน
- ความหนาของแผ่นพื้น ความหนามาตรฐาน ที่ 5 mm. – 7 mm. ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความทนทาน
- ความหนาของชั้น Wear Layer ที่ 0.3-0.5 mm. ช่วยป้องกันรอยขีดข่วนและการสึกหรอ ทำให้พื้นมีอายุการใช้งานยาวนาน
- ลวดลายและสีสัน เลือกสีและลวดลายที่เหมาะกับการตกแต่งภายใน และคำนึงถึงสีอุปกรณ์สำหรับจบงาน เช่น บัว จอยซ์ ว่ามีสีและลายไม้ที่เหมือนกันหรือไม่
- ระบบคลิกล็อค ที่มีประสิทธิภาพ เช่น ระบบลิ้นล็อก 5G ที่ช่วยป้องกันรอยห่างหลังการใช้งานในระยะเวลาที่ยาวนาน
- ชนิดของแกน SPC เป็นเกรด Virgin ผลิตจากวัสดุใหม่ 100% Core board หรือแกนกลางสีขาว จะมีความแข็งแรงและอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า เกรด Reclycle
- รองพื้นด้วย IXPE foam วัสดุที่ทนทานกว่าโฟมทั่วไป ช่วยรองรับน้ำหนักเพิ่มความนุ่มสบาย ลดเสียง และช่วยป้องกันความชื้นจากพื้นดิน
- คุณภาพและมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ ที่ได้รับรองจากหน่วยงานวัดมาตรฐานระดับโลก
- แบรนด์และร้านค้าที่น่าเชื่อถือ เลือกซื้อจากร้านค้าที่มีชื่อเสียงและมีนโยบายการรับประกัน เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับสินค้าที่มีคุณภาพและบริการหลังการขายที่ดี
การติดตั้งไม้พื้นสังเคราะห์/พื้นไม้เทียม
การติดตั้งไม้พื้นสังเคราะห์หรือพื้นไม้เทียมเป็นขั้นตอนสำคัญที่ส่งผลต่อความสวยงามและอายุการใช้งานของพื้น หากติดตั้งอย่างถูกวิธีจะช่วยให้พื้นมีความแข็งแรง ทนทาน และลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต มาดูขั้นตอนการติดตั้งที่ถูกต้องกัน
การเตรียมพื้นผิวก่อนติดตั้ง
- ตรวจสอบพื้นเดิมให้เรียบเสมอกัน ไม่มีรอยแตกร้าวหรือเศษวัสดุที่อาจทำให้พื้นไม่แนบสนิท
- หากติดตั้งบนพื้นคอนกรีต ควรปล่อยให้พื้นแห้งสนิทก่อน และอาจใช้วัสดุป้องกันความชื้นเพื่อป้องกันปัญหาน้ำซึม
- หากติดตั้งบนโครงสร้างไม้ ควรใช้โครงสร้างที่แข็งแรงและเว้นระยะห่างระหว่างตงให้เหมาะสม
การเลือกอุปกรณ์และวัสดุที่เหมาะสม
- ใช้โครงไม้หรือโครงอลูมิเนียมที่มีความแข็งแรงและทนต่อสภาพอากาศ
- เลือกใช้สกรูหรือคลิปล็อกที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับไม้พื้นสังเคราะห์ เพื่อลดปัญหาการโก่งตัวของพื้น
- กำหนดทิศทางการติดตั้งให้เหมาะสมกับพื้นที่และการไหลของน้ำ เพื่อป้องกันน้ำขัง
ขั้นตอนการติดตั้งพื้นไม้สังเคราะห์
- ติดตั้งโครงตงโดยเว้นระยะห่างตามที่ผู้ผลิตแนะนำ (โดยทั่วไปอยู่ที่ 30-40 ซม.)
- วางแผ่นพื้นไม้เทียมบนโครงตงและยึดด้วยคลิปล็อกหรือสกรูให้แน่น
- เว้นร่องเล็ก ๆ ระหว่างแผ่นพื้นประมาณ 3-5 มม. เพื่อให้มีพื้นที่สำหรับการขยายตัวและหดตัวของวัสดุเมื่ออุณหภูมิเปลี่ยนแปลง
- ตรวจสอบระดับความเรียบของพื้นและปรับแต่งให้แนบสนิท
การเก็บรายละเอียดหลังติดตั้ง
- ตรวจสอบความแน่นของสกรูหรือคลิปล็อก เพื่อให้แน่ใจว่าพื้นยึดติดแน่นและไม่เกิดช่องว่าง
- ติดตั้งขอบบัวหรือบัวกันน้ำบริเวณขอบพื้นเพื่อป้องกันน้ำซึมเข้าใต้พื้น
- ทำความสะอาดพื้นไม้เทียมหลังการติดตั้ง เพื่อกำจัดฝุ่นหรือคราบสกปรกที่เกิดขึ้นระหว่างการทำงาน
การดูแลรักษาไม้พื้นสังเคราะห์/พื้นไม้เทียมให้คงทนและสวยงาม
การทำความสะอาดและบำรุงรักษาไม้พื้นสังเคราะห์ พื้นไม้เทียม สำหรับภายใน และภายนอก เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยยืดอายุการใช้งานและรักษาความสวยงามของพื้นไม้ให้ยาวนานยิ่งขึ้น
- การทำความสะอาดทั่วไป กวาดหรือดูดฝุ่นเป็นประจำ ใช้ไม้กวาดอ่อนหรือเครื่องดูดฝุ่นเพื่อกำจัดฝุ่นผง เศษใบไม้ และสิ่งสกปรกอื่นๆ ออกจากพื้นไม้เป็นประจำ
- ทำความสะอาดด้วยน้ำสบู่ หรือทำยาทำความสะอาดที่ไม่มีสารเคมีรุนแรง ผสมน้ำยาทำความสะอาด หรือน้ำสบู่กับน้ำอุ่นเช็ดทำความสะอาดพื้นไม้ล้างออกด้วยน้ำสะอาดและเช็ดให้แห้ง
สำหรับคราบสกปรกฝังแน่น เช่น คราบอาหาร คราบน้ำมัน หรือคราบเชื้อรา ให้ใช้น้ำยาทำความสะอาดเฉพาะสำหรับไม้เทียม ปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลากผลิตภัณฑ์อย่างเคร่งครัด
หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์กัดกร่อนรุนแรง เพราะอาจทำให้พื้นไม้เสียหายได้ - การบำรุงรักษา ตรวจสอบพื้นไม้เป็นประจำเพื่อหารอยแตก รอยร้าว หรือความเสียหายอื่นๆ และซ่อมแซมความเสียหายทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้ลุกลาม
- หลีกเลี่ยงการใช้ของมีคมหรือของแข็งขูดขีดพื้นไม้ เพราะอาจทำให้เกิดรอยขีดข่วนได้ เช่น แปรงขัดที่มีขนแข็ง หรือแผ่นขัดโลหะ
ติดตั้งแผ่นกันรอยใต้เฟอร์นิเจอร์ใต้ขาโต๊ะ เก้าอี้ และเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ เพื่อลดแรงเสียดทาน หลีกเลี่ยงการเดินด้วยรองเท้าส้นสูงหรือรองเท้าที่มีกรวดติดอยู่อาจทำให้เกิดรอยขีดข่วนได้ง่าย - ระวังเรื่องความร้อนไม้พื้นสังเคราะห์บางประเภทอาจมีความร้อนสูงเมื่อโดนแสงแดดโดยตรง ควรระวังและหลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรงเป็นเวลานาน แสงแดดและความร้อนส่งผลกระทบต่อการซีดจางของสี สำหรับพื้นภายในด้วยเช่นกัน
คำถามที่พบบ่อย
อายุการใช้งานของไม้พื้นสังเคราะห์/พื้นไม้เทียมนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ทั้งประเภทของวัสดุ คุณภาพของผลิตภัณฑ์ สภาพแวดล้อม และการดูแลรักษา
ไม้พลาสติกคอมโพสิต (WPC) มีอายุการใช้งานโดยเฉลี่ย 10-25 ปี หรือนานกว่านั้น ขึ้นอยู่กับคุณภาพของวัสดุและการดูแลรักษา
ไม้ไฟเบอร์ซีเมนต์ มีอายุการใช้งาน 10-20 ปีขึ้นไป แต่ต้องหมั่นทำสีเป็นระยะ เนื่องจาก สีลอกล่อนง่ายกว่าเมื่อเทียบกับไม้ WPC
ไม้ไวนิล มีอายุการใช้งานประมาณ 10 ปี โดยประมาณ อายุการใช้งานจะมากกว่านั้นขึ้นอยู่กับ แกนวัสดุที่นำมาประกอบ เช่น แกน SPC และ WPC อายุการใช้งาน จะเพิ่มเป็น 10-20 ปี
ความหนาของ ชั้น Wear Layer ที่ช่วยป้องกันรอยขีดข่วนและการสึกหรอ เป็นอีกตัวช่วยสำคัญ ที่ช่วยยืดอายุการใช้งานให้นานยิ่งขึ้น
ไม้พลาสติกคอมโพสิต (WPC) แบบรุ่นไม่เคลือบผิว สามารถใช้กับ พื้นที่ภายนอกเช่น ระเบียง ที่อยู่ใต้ชายคาได้ เนื่องจาก ผิวที่ไม่เคลือบจะไม่เหมาะกับบริเวณที่โดนแดดจัด
การติดตั้งในที่ร่มจะช่วยยืดอายุการใช้งานได้นานขึ้น ไม้พลาสติกคอมโพสิต (WPC) รุ่นเคลือบผิว ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี Coextrusion สามารถใช้งานในบริเวณที่โดดแสงแดดจัดทั้งวันได้
เช่น รอบสระว่ายน้ำ ระเบียงกลางแจ้ง ท่าเรือ ฯ
ไม้ไวนิล SPC มีคุณสมบัติกันน้ำและความชื้นได้ดี จึงเหมาะสำหรับห้องครัวและบริเวณใกล้ห้องน้ำ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความชื้นสูง ไม่ต้องการการดูแลรักษาที่มากจนเกินไป จึงเหมาะกับการใช้งานภายในเชิงพาณิชย์
ส่วนไม้ไวนิล WPC เหมาะกับพื้นที่ที่ต้องการความรู้สึกผ่อนคลายในการกดสัมผัส ที่ให้ความเป็นธรรมชาติและหรูหรามากกว่าไม้ SPC จึงเหมาะกับห้องนอน ที่ต้องการความผ่อนคลายมากกว่า
ราคาอาจมีราคาสูงกว่าไม้จริงในบางประเภท สำหรับสินค้ากลุ่มไม้เทียมภายนอก ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี Coextrusion เพราะราคาที่สูงกว่าแลกมาด้วยคุณภาพสินค้าที่ใช้งานได้ยาวนานขึ้นกว่าไม้จริง
การสะสมความร้อนเมื่อใช้งานกลางแจ้งที่อาจจะมากกว่า ไม้จริง ความรู้สึกที่อาจไม่เหมือนไม้ธรรมชาติ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบความเป็นธรรมชาติของไม้จริง
ทั้งนี้ผู้ซื้ออาจต้องชั่งวัดความต้องการและประโยชน์จากการใช้งานที่ยาวนานขึ้น ของ ไม้พื้นสังเคราะห์/พื้นไม้เทียม ในระยะยาว
การติดตั้งไม่ยาก แต่ควรติดตั้งโดยช่างผู้ชำนาญ เพื่อให้ได้งานที่มีคุณภาพและทนทาน สำหรับไม้พื้นสังเคราะห์สำหรับภายนอกบางแบรนด์ การติดตั้งตามวีธีการติดตั้งที่ผู้ผลิตกำหนดเท่านั้น
เพราะเกี่ยวพันถึงเงื่อนไขการรับประกันสินค้าในอนาคต โดยหลักๆแล้วการติดตั้งไม้พื้นสังเคราะห์ ภายนอก จะเน้นที่การเว้นระยะระหว่างรอยต่อหัวไม้ ที่ 2-3 mm. และรอยต่อระหว่างหัวไม้และผนังปูน ที่อย่างน้อย 5 mm.
เพื่อรองรับอัตราการยืดหดและขยายตัวตามการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ของไม้พื้นสังเคราะห์/พื้นไม้เทียม
สำหรับไม้พื้นสังเคราะห์/พื้นไม้เทียม สำหรับงานติดตั้งภายใน เช่น SPC / WPC การติดตั้งจะง่ายขึ้นด้วยระบบการติดตั้งแบบ คลิกล็อก ทั้งแบบ 2G และ 5G แต่การติดตั้งจะต้องคำนึงถึงการเตรียมพื้นก่อนปู
ให้เรียบเนียน และ ค่าความชื่นไม่เกินกำหนด ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ คือการติดตั้งที่ใส่ใจถึงการการยืดอายุการใช้งานของสินค้าให้ยาวนานยิ่งขึ้น ทำให้ลูกค้าได้รับความคุ้มค่าจากระยะการใช้งานที่มากขึ้น