Full 1
Full 1

พื้นไม้ SPC

พื้นไม้ SPC (Stone Plastic Composite) เป็นนวัตกรรมไม้ทดแทนที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน เนื่องจากคุณสมบัติเด่นที่ตอบโจทย์ทั้งด้านความสวยงามและความคงทน

พื้นไม้ SPC ได้รับการพัฒนาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่มองหาวัสดุปูพื้นที่มีคุณภาพสูงและใช้งานได้ในทุกสภาพแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นบ้านพักอาศัย สำนักงาน หรือสถานที่เชิงพาณิชย์ ด้วยความแข็งแรง ทนทาน และการดูแลรักษาที่ง่าย พื้นไม้ SPC จึงกลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการปรับปรุงพื้นที่ให้มีความสวยงามและใช้งานได้ยาวนาน

พื้นไม้ SPC ย่อมาจาก Stone Plastic Composite ซึ่งเป็นวัสดุปูพื้นที่ประกอบด้วยพลาสติกและหินผสมกัน โครงสร้างนี้ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความคงทน โดยที่ยังคงความยืดหยุ่นและความสวยงามของลวดลายไม้ธรรมชาติ

ไม้พื้น SPC คืออะไร

พื้นไม้ SPC ย่อมาจาก Stone Plastic Composite ซึ่งเป็นวัสดุปูพื้นที่ประกอบด้วยพลาสติกและหินผสมกัน โครงสร้างนี้ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความคงทน โดยที่ยังคงความยืดหยุ่นและความสวยงามของลวดลายไม้ธรรมชาติ ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อรวมคุณสมบัติที่ดีที่สุดของวัสดุหลายประเภท เช่น ไวนิลและลามิเนต โดยมีการออกแบบให้มีความแข็งแรง ทนทาน และสามารถกันน้ำได้ 100%

โครงสร้างและส่วนประกอบหลัก

  1. ชั้น UV Coating Layer เป็นชั้นป้องกันรอยขีดข่วนและป้องกันรังสี UV ทำให้พื้นไม้คงความสวยงามได้ยาวนาน
  2. ชั้น Wear Layer ชั้นป้องกันการสึกหรอ เพิ่มความทนทานและช่วยให้พื้นทนต่อการใช้งานหนัก
  3. ชั้น Color Printing Layer เป็นชั้นที่มีลวดลายไม้เสมือนจริง เพิ่มความสวยงามให้กับพื้นไม้
  4. ชั้น SPC Core Layer ชั้นหลักที่ประกอบด้วยพลาสติกและหินผสม มีความแข็งแรงและป้องกันความชื้นได้ดีเยี่ยม
  5. ชั้น IXPE foam รองพื้น ชั้นรองรับน้ำหนักเพิ่มความนุ่มสบาย ลดเสียง และช่วยป้องกันความชื้นจากพื้นดิน

คุณสมบัติและข้อดีของพื้นไม้ SPC

  • ทนทานต่อความชื้นและน้ำ พื้นไม้ SPC เหมาะสำหรับใช้งานในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง เช่น พื้นที่ใกล้ห้องน้ำและห้องครัว เนื่องจากโครงสร้างของวัสดุสามารถกันน้ำได้ 100%
  • ความแข็งแรงและทนต่อแรงกระแทกด้วยการผสมผสานของพลาสติกและหิน พื้นไม้ SPC มีความแข็งแรงสูง ทนต่อแรงกระแทกและน้ำหนักได้ดี
  • ไม่ยืดหดตัวเมื่ออุณหภูมิเปลี่ยนแปลง พื้นไม้ SPC สามารถคงรูปและขนาดได้แม้ในสภาพอากาศที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
  • ปลอดภัยจากปลวกและแมลง ด้วยวัสดุที่ไม่ใช่ไม้ธรรมชาติ ทำให้พื้นไม้ SPC ไม่มีปัญหาเรื่องปลวกและแมลงกัดกิน
  • ติดตั้งง่ายด้วยระบบคลิกล็อก ระบบคลิกล็อกช่วยให้การติดตั้งเป็นเรื่องง่าย ไม่ต้องใช้กาวหรืออุปกรณ์พิเศษ
  • ทนทานต่อรอยขีดข่วน ชั้น UV Coating Layer และ Wear Layer ช่วยป้องกันรอยขีดข่วนจากการใช้งานประจำวัน
  • ผิวสัมผัสและลวดลายเสมือนไม้จริง พื้นไม้ SPC มีลวดลายและผิวสัมผัสที่สวยงามเสมือนไม้ธรรมชาติ ทำให้พื้นที่ดูหรูหราและอบอุ่น

ความแตกต่าง ระหว่าง กระเบื้องยางไวนิล และ ไม้พื้น SPC

กระเบื้องยางไวนิล

วัสดุหลัก

  • ผลิตจาก PVC 100% มีความยืดหยุ่นสูง สามารถดัดงอได้ดี
ความทนทานกระเบื้องยางไวนิล
  • มีความทนทานปานกลาง
  • ต่อแรงกระแทกและรอยขีดข่วน ขึ้นอยู่กับความหนา
  • ของชั้นฟิล์มกันรอยขีดข่วน
การติดตั้งกระเบื้องยางไวนิล
  • มีทั้งแบบติดตั้งด้วยกาว
  • และแบบคลิกล็อค
สัมผัสและรูปลักษณ์กระเบื้องยางไวนิล
  • มีความยืดหยุ่นและนุ่มกว่า
  • แต่ให้สัมผัสไม่เหมือนพื้นไม้จริงมากนัก
ราคากระเบื้องยางไวนิล
  • ราคาต่ำกว่าและสามารถดัดงอได้
  • แต่อาจต้องใช้ความชำนาญในการติดตั้ง

ไม้พื้น SPC

วัสดุหลัก

  • ผลิตจาก PVC ผสมกับผงหิน ทำให้มีความแข็งแรงและคงตัว
    ไม่ยืดหดตัวตามสภาพอากาศ

ความทนทานของไม้พื้น SPC

  • มีความทนทานสูงมาก ต่อแรงกระแทกและรอยขีดข่วน
  • ไม่ลามไฟ และทนต่อความชื้นได้ดี

การติดตั้งไม้พื้น SPC

  • ติดตั้งแบบคลิกล็อค ( 2G , 5G ) เท่านั้น
    ทำให้ติดตั้งง่ายและรวดเร็ว ไม่ต้องใช้กาว
สัมผัสและรูปลักษณ์ไม้พื้น SPC
  • มีความแข็งคล้ายพื้นไม้จริง
  • ด้วยเทคโนโลยี EIR มีลวดลายและสีที่หลากหลาย
ราคาไม้พื้น SPC
  • ราคาสูงกว่า แต่ติดตั้งง่ายและดูแลรักษาง่าย
    สามารถใช้น้ำทำความสะอาดได้

Our Products

Hybrid Plus+ by NewTechWood Interiors

ไม้พื้นภายในที่แข็งแกร่งและเป็นธรรมชาติที่สุด จาก NewTechWood Interiors

ด้วยลายไม้ธรรมชาติ เทคโนโลยีการผลิตผิวหน้าใหม่ล่าสุด EIR (Embossed In Register) ทำให้สัมผัสร่องลายไม้ได้ชัดเจนเต็มอารมณ์
เทคโนโลยีการผิวหน้าเคลือบ UV Coating แบบไม้เอ็นจิเนียร์ และ ชั้น Wear Layer หนาถึง 0.5 mm. จึงทนรอยขีดข่วนได้มากที่สุด ไม่ต้องกังวลเรื่องความชื้น เพราะป้องกันน้ำได้ 100%
แผ่นไม้หนาถึง 7 mm. มาพร้อมกับเทคโนโลยีคลิกล็อกที่ดีที่สุด 5G-Click Lock System ( ลิขสิทธิ์ Välinge จากประเทศสวีเดน ) ระบบล็อกที่ออกแบบมาเพื่อรองรับน้ำหนักในแนวดิ่ง
หรือแรงเหยียบได้มากขึ้น ช่วยให้รอยต่อระหว่างแผ่นไม้แข็งแรง ทนทานกว่าระบบคลิกล็อกเดิมๆ ในท้องตลาด ติดตั้งไว ไม่ต้องใช้กาว พร้อมใช้งานได้ทันทีหลังติดตั้ง

ไม้พื้น Hybrid Plus+ กับคุณสมบัติสุดปัง ครบครันด้านงานพื้นไม้ภายในด้วยโครงสร้างภายใน ใช้ความแข็งแกร่งและทนชิ้น และคุณสมบัติดังนี้

  •  ลายไม้สวยเป็นธรรมชาติ พร้อมคลือบผิวหน้ากันรอยขีดข่วนด้วย UV Coating ถึง 7 ชั้น จากผลิตภัณฑ์สีของ Treffert จากประเทศ Germany
  • ชั้น Wear Layer หนาถึง 0.5 mm. มากกว่าทั่วไปถึง 2 เท่า
  • แผ่นไม้มีความหนารวม 7 mm. ให้ความรู้สึกแน่นเท้าเวลาเดิน
  • โครงสร้าง SPC Core Board ผลิตจากวัสดุใหม่ 100% (Virgin Material) แข็งแรงทนทานใช้งานได้นาน
  • ระบบลิ้นล็อก แบบ 2G และ 5G Click System ( ลิขสิทธิ์ Välinge จากประเทศสวีเดน )
  • รองด้วยแผ่นซับรองรับการกระแทกจากการใช้งาน วัสดุ IXPE พื้นแน่น ไร้เสียงดังรบกวน
  • ป้องกันการลื่นล้มด้วย ค่ากันความลื่นระดับ R10 (Slip Resistance)
  • Pet Friendly เป็นมิตรต่อสัตว์เลี้ยงและอุ้งเท้าแมว

Why Choose Us ?

  • คุณภาพมาตรฐานระดับสากล
    ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูงและผ่านกระบวนการผลิตที่ทันสมัย เพื่อให้ได้ไม้เทียมที่มีความแข็งแรง ทนทานต่อสภาพอากาศทั้งในร่มและกลางแจ้ง ไม่ว่าจะเป็นฝน แดด หรือความชื้น ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในทุกพื้นที่

  • รักษ์สิ่งแวดล้อม
    ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ไม้เทียมของเราไม่เพียงแต่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิลเท่านั้น แต่ยังช่วยลดการฝังกลบขยะและการตัดไม้ทำลายป่า จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืน

  • ติดตั้งง่ายและประหยัดเวลา
    ไม้เทียมของ K.S.WOOD ถูกออกแบบมาให้ติดตั้งง่ายและรวดเร็ว ด้วยระบบคลิปล็อคที่มีประสิทธิภาพ ลดเวลาในการติดตั้งและค่าแรง ทำให้ลูกค้าประหยัดทั้งเงินและเวลา า

  • การรับประกันที่น่าเชื่อถือ
    มอบความมั่นใจให้ลูกค้าด้วยการรับประกันสินค้าในระยะยาว สูงสุด 25 ปี แสดงถึงความเชื่อมั่นในคุณภาพของผลิตภัณฑ์ และช่วยให้ลูกค้ามั่นใจในการเลือกใช้สินค้า

  • บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม
    ไม่เพียงแต่ใส่ใจในคุณภาพสินค้า แต่ยังใส่ใจในบริการหลังการขาย ด้วยทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำปรึกษาและช่วยแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว

  • ความไว้วางใจจากบริษัทชั้นนำ
    บริษัทชั้นนำจากหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น ก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ และตกแต่งภายใน ได้เลือกใช้ไม้เทียมของ K.S.WOOD ในโครงการต่างๆ โดยเฉพาะในโครงการที่ต้องการสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้าและคู่ค้า

Reference

logo-ลูกค้า-kswood

การเลือกซื้อพื้นไม้ SPC

ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อ การเลือกซื้อพื้นไม้ SPC (Stone Plastic Composite) สิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณได้วัสดุที่เหมาะสมกับความต้องการ นี่คือแนวทางในการเลือกซื้อพื้นไม้ SPC

  1. ความหนาของแผ่นพื้น ความหนามาตรฐานช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความทนทาน
  2. ความหนาของชั้น Wear Layer ช่วยป้องกันรอยขีดข่วนและการสึกหรอ ทำให้พื้นมีอายุการใช้งานยาวนาน
  3. ลวดลายและสีสัน เลือกสีและลวดลายที่เหมาะกับการตกแต่งภายใน และคำนึงถึงสีอุปกรณ์สำหรับจบงาน เช่น บัว จอยซ์ ว่ามีสีและลายไม้ที่เหมือนกันหรือไม่
  4. ระบบคลิกล็อค ที่มีประสิทธิภาพ เช่น ระบบลิ้นล็อก 5G ที่ช่วยป้องกันรอยห่างหลังการใช้งานในระยะเวลาที่ยาวนาน
  5. ชนิดของแกน SPC เป็นเกรด Virgin ผลิตจากวัสดุใหม่ 100% Core board หรือแกนกลางสีขาว จะมีความแข็งแรงและอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า เกรด Recycle
  6. รองพื้นด้วย IXPE foam วัสดุที่ทนทานกว่าโฟมทั่วไป ช่วยรองรับน้ำหนักเพิ่มความนุ่มสบาย ลดเสียง และช่วยป้องกันความชื้นจากพื้นดิน
  7. คุณภาพและมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ ที่ได้รับรองจากหน่วยงานวัดมาตรฐานระดับโลก
  8. แบรนด์และร้านค้าที่น่าเชื่อถือ เลือกซื้อจากร้านค้าที่มีชื่อเสียงและมีนโยบายการรับประกัน เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับสินค้าที่มีคุณภาพและบริการหลังการขายที่ดี

ขั้นตอนการติดตั้งพื้นไม้ SPC

การติดตั้งพื้นไม้ SPC (Stone Plastic Composite) เป็นวิธีการที่ง่ายและสะดวก โดยเฉพาะในรูปแบบคลิกล็อค ( 2G , 5G )
ซึ่งไม่ต้องใช้กาวในการติดตั้ง นี่คือขั้นตอนและเทคนิคที่ควรทราบ

วัสดุอุปกรณ์ที่ต้องเตรียม

  1. ตลับเมตร - สำหรับวัดพื้นที่
  2.  คัตเตอร์หรือเครื่องตัดไม้พื้น SPC เช่น เลื่อยมือ เลื่อยองศา - ใช้สำหรับตัดแผ่นไม้
  3. ไม้พื้น SPC - สำหรับติดตั้ง
  4. บัวและตัวจบงาน - เพื่อให้ดูเรียบร้อย
  5. ซิลิโคนหรือแดปเก็บขอบ - สำหรับเก็บขอบให้เรียบร้อย

การเตรียมพื้นผิวก่อนการติดตั้ง ไม้พื้น SPC

  1. ทำความสะอาดพื้นผิวให้ปราศจากฝุ่นและสิ่งสกปรก
  2. ตรวจสอบให้พื้นผิวเรียบและไม่มีความชื้น

ขั้นตอนการติดตั้ง

  1. เตรียมไม้พื้น SPC นำออกจากกล่องและวางทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องประมาณ 20-24 ชั่วโมง เพื่อให้วัสดุปรับตัว
  2. ตรวจสอบพื้นเดิม ทำความสะอาดพื้นที่ที่จะติดตั้ง และตรวจสอบว่าพื้นเรียบเสมอกัน ไม่มีหลุมหรือโนน
  3. เริ่มการติดตั้ง จากประตูทางเข้าหรือมุมห้อง สำหรับการปูแบบสุ่ม (Random pattern)
  4. การวางตามแนวขนานกับผนังห้อง โดยเว้นระยะห่างประมาณ 5 mm. จากผนังเพื่อรองรับการขยายตัวของวัสดุ
  5. ติดตั้งด้วยระบบคลิกล็อก กดล็อกแผ่นพื้นให้แน่นสนิททำซ้ำจนกว่าจะปูเต็มพื้นที่
  6. จบงานด้วยบัว PVC: หลังจากติดตั้งเสร็จแล้ว ใช้บัว PVC และยิงซิลิโคนตามขอบเพื่อเพิ่มความเรียบร้อย
  7. ตรวจสอบความเรียบร้อย: ตรวจสอบว่าแผ่นไม้พื้น SPC ทุกแผ่นติดตั้งแน่นหนาและไม่มีปัญหาใด ๆ ก่อนทำความสะอาดพื้นที่
การปูทับพื้นเดิม
พื้นไม้ SPC สามารถปูทับพื้นกระเบื้องหรือพื้นไม้เก่าได้โดยไม่ต้องรื้อถอน เพียงตรวจสอบให้พื้นเดิมเรียบและแข็งแรง
การติดตั้งพื้นไม้ SPC ด้วยตัวเองไม่เพียงแต่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ยังเป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ง่าย ๆ ที่บ้าน

การดูแลรักษาพื้นไม้ SPC

วิธีการทำความสะอาด

ใช้ผ้าชุบน้ำหมาดเช็ดพื้น หรือใช้ไม้ถูพื้นที่มีน้ำยาทำความสะอาดสูตรอ่อนโยน
แนะนำ KSCLEAN MULTIPURPOSE CLEANER น้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์ที่ทำความสะอาดได้ทุกพื้นผิว

การป้องกันรอยขีดข่วน

ป้องกันด้วยการวางแผ่นรองใต้ขาเฟอร์นิเจอร์ และหลีกเลี่ยงการลากของหนัก

การรักษาความเงางามของพื้น

ใช้น้ำยาขัดพื้นเฉพาะสำหรับพื้นไม้ SPC เพื่อรักษาความเงางาม
แนะนำ KSCLEAN MULTIPURPOSE CLEANER น้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์ที่ทำความสะอาดได้ทุกพื้นผิว

คำถามที่พบบ่อย

พื้นไม้ SPC (Stone Plastic Composite) เป็นวัสดุปูพื้นที่มีความทนทานและเหมาะสำหรับการใช้งานในหลากหลายพื้นที่ เนื่องจากคุณสมบัติที่โดดเด่น เช่น ความทนทานต่อความชื้นและการขีดข่วน รวมถึงการติดตั้งที่ง่ายและสะดวกสบาย โดยสามารถติดตั้งได้บนพื้นผิวที่เรียบโดยไม่ต้องใช้กาว

พื้นที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานพื้น SPC มีดั้งนี้

  1. พื้นที่ใกล้ห้องน้ำ เช่น Walk In Closet และห้องครัวเปิดแบบ Western Kitchen
    พื้นที่เหล่านี้มีโอกาสสัมผัสความชื้นสูงและต้องการวัสดุที่กันน้ำได้ดี พื้นไม้ SPC สามารถป้องกันการบวมเมื่อสัมผัสน้ำ รวมถึงทำความสะอาดง่าย ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการตกแต่งพื้นห้อง
  2. ห้องนั่งเล่น Living room และ โถงต้อนรับ Welcome Foyer
    พื้น SPC มีลวดลายที่สวยงามและสามารถสร้างบรรยากาศหรูหรา เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีการใช้งานหนัก เช่น ห้องนั่งเล่น โถงต้อนรับ ที่ต้องการความทนทานต่อการขูดขีดและการใช้งานบ่อยครั้ง
  3. ห้องนอน Master Bedroom ห้อง Family room
    พื้น SPC สามารถสร้างบรรยากาศอบอุ่นและสบาย เหมาะสำหรับห้องนอน เนื่องจากมีคุณสมบัติไม่เย็นจัดเหมือนกระเบื้อง และให้ความรู้สึกสบายเมื่อเดินและสัมผัสด้วยเท้าเปล่า
  4. พื้นที่พาณิชย์ Commercial Area
    ร้านค้า สำนักงาน โรงแรม และร้านอาหารมักมีการใช้งานหนัก พื้น SPC ทนทานต่อรอยขีดข่วนและดูแลรักษาง่าย ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับพื้นที่พาณิชย์

การดูแลรักษาพื้นไม้ SPC (Stone Plastic Composite) เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้พื้นมีความสวยงามและยืดอายุการใช้งาน โดยสามารถทำได้ตามขั้นตอนและคำแนะนำดังนี้:

วิธีการดูแลรักษาพื้น SPC

  • ทำความสะอาดเบื้องต้น
    ใช้เครื่องดูดฝุ่นหรือไม้กวาด: ควรใช้เครื่องดูดฝุ่นหรือไม้กวาดขนนุ่มเพื่อเก็บฝุ่นและสิ่งสกปรกบนพื้นอย่างสม่ำเสมอ โดยควรทำอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง
  • การทำความสะอาดลึก
    ใช้ผ้าชุบน้ำหมาด: สำหรับคราบสกปรก สามารถใช้ผ้าชุบน้ำหมาดหรือผ้าถูพื้นไมโครไฟเบอร์ เช็ดทำความสะอาด
    น้ำยาทำความสะอาด: ใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีความเข้มข้นต่ำ หรือผสมกับน้ำอุ่นเพื่อขจัดคราบที่ฝังแน่น
    แนะนำ KSCLEAN MULTIPURPOSE CLEANER น้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์ที่ทำความสะอาดได้ทุกพื้นผิว
  • ข้อควรระวังในการทำความสะอาด
    หลีกเลี่ยงการใช้น้ำร้อน: ไม่ควรใช้น้ำเดือดหรือน้ำร้อนจัดในการทำความสะอาด เพราะอาจทำให้พื้นเสียรูป
    ไม่ใช้สารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อน: หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีแอมโมเนีย น้ำยาฟอกขาว หรือสารเคมีที่เป็นกรดหรือด่างสูง เนื่องจากจะทำลายชั้นป้องกันของพื้น
    แนะนำ KSCLEAN MULTIPURPOSE CLEANER น้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์ที่ทำความสะอาดได้ทุกพื้นผิว
  • การป้องกัน
    ใช้แผ่นกันรอย: ควรติดตั้งแผ่นรองกันรอยที่ขาเฟอร์นิเจอร์เพื่อลดโอกาสเกิดรอยขีดข่วน
    หลีกเลี่ยงการลากเฟอร์นิเจอร์: ควรยกเฟอร์นิเจอร์แทนการลาก เพื่อป้องกันไม่ให้พื้นเกิดความเสียหาย
  • การจัดการกับคราบสกปรก
    เช็ดทันที: หากมีคราบสกปรกจากอาหารหรือเครื่องดื่ม ควรเช็ดออกทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้คราบฝังแน่น

สรุป
การดูแลรักษาพื้น SPC ต้องการความเอาใจใส่และการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ โดยการเลือกใช้อุปกรณ์และน้ำยาที่เหมาะสมจะช่วยให้พื้นมีความสวยงามและยืดอายุการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ.

พื้นไม้ SPC (Stone Plastic Composite) มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน โดยทั่วไปสามารถอยู่ได้ระหว่าง 10 ถึง 20 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาและเทคนิคการผลิตสินค้า
โดยส่วนใหญ่มีการรับประกันคุณภาพสินค้าประมาณ 10 -15 ปี สำหรับแบรนด์ที่ผลิตสินค้าด้วย วัตถุดิบ Virgin grade คุณภาพดี
อายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น สามารถทำได้โดยการดูแลรักษาพื้นไม้ SPC อย่างเหมาะสม เช่น ทำความสะอาดเป็นประจำ ด้วยน้ำยาทำความสะอาดที่ถนอมพื้น และหลีกเลี่ยงการลากเฟอร์นิเจอร์ที่อาจทำให้เกิดรอยขีดข่วน

พื้นไม้ SPC (Stone Plastic Composite) มีความทนทานต่อสัตว์เลี้ยงอย่างดี โดยมีคุณสมบัติที่เหมาะสมสำหรับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง ดังนี้

  1. ทนทานต่อรอยขีดข่วน: พื้น SPC มีชั้น Wear Layer ที่ช่วยป้องกันรอยขีดข่วนจากเล็บของสัตว์เลี้ยงได้ดี
  2. กันน้ำและความชื้น: สามารถป้องกันน้ำและความชื้นได้ 100% ซึ่งเหมาะสำหรับพื้นที่ที่อาจมีน้ำหรือความชื้นจากสัตว์เลี้ยง
  3. ทำความสะอาดง่าย: พื้น SPC ทำความสะอาดได้ง่าย ไม่ซับซ้อน ทำให้เหมาะสำหรับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง
  4. ผิวไม่ลื่น: มีผิวสัมผัสที่ไม่ลื่น ช่วยเพิ่มความปลอดภัยสำหรับสัตว์เลี้ยงและผู้อยู่อาศัย
  5. ปลอดสารพิษ: เป็นวัสดุที่ปลอดสารพิษและเป็นมิตรต่อสุขภาพของสัตว์เลี้ยงและมนุษย์