บันไดไม้เอ็นจิเนียร์คืออะไร?

บันไดไม้เอ็นจิเนียร์ เป็นบันไดที่ผลิตจากไม้หลายชั้น โดยมีโครงสร้างหลักประกอบด้วยชั้นของไม้อัดหรือไม้เนื้อแข็งที่ถูกอัดแน่นเข้าด้วยกัน และปิดทับด้านบนด้วยไม้จริงที่มีมูลค่า เพื่อให้ได้รูปลักษณ์ที่สวยงามแบบบันไดไม้จริงเต็มแผ่น ข้อดีของบันไดไม้เอ็นจิเนียร์คือมีความแข็งแรง ทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ และมีราคาไม่แพงเท่ากับบันไดไม้จริง

ส่วนประกอบพื้นบันไดไม้เอ็นจิเนียร์ 

1. ชั้นผิวหน้า (Veneer Layer หรือ Top Layer)

   • เป็นแผ่นไม้จริง  (หนาประมาณ 2-4 มิลลิเมตร)  ทำจากไม้ชนิดต่างๆ เช่น ไม้โอ๊ค, ไม้มะค่า, ไม้สัก, ไม้วอลนัท หรือไม้แอช
   • โชว์ลายไม้ธรรมชาติและให้ความรู้สึกของไม้จริง
   • มีการเคลือบผิวด้วยสารเคลือบต่างๆ เช่น แล็กเกอร์, โพลียูรีเทน หรือน้ำมัน เพื่อป้องกันรอยขีดข่วน ความชื้น และการสึกหรอ

2. ชั้นแกนกลาง (Core Layer)

   • เป็นส่วนที่หนาที่สุดของพื้นบันได ทำหน้าที่รับแรงและให้ความแข็งแรง
   • วัสดุที่ใช้ในชั้นนี้อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับผู้ผลิตและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ แต่โดยทั่วไปมักจะเป็น:
     • ไม้อัด (Plywood): เป็นแผ่นไม้ที่ทำจากการนำแผ่นไม้บางๆ หลายแผ่นมาอัดกาวเข้าด้วยกัน โดยให้แนวเสี้ยนของแต่ละแผ่นสลับกัน ทำให้มีความแข็งแรงสูงและทนทานต่อการบิดงอ
     • ไม้เนื้ออ่อน (Softwood): เช่น ไม้สน หรือไม้ยางพารา นำมาต่อกันแบบ Finger Joint หรือ Blockboard เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและลดการโก่งตัว
     • HDF (High-Density Fiberboard) หรือ MDF (Medium-Density Fiberboard): เป็นแผ่นใยไม้อัดที่มีความหนาแน่นสูง มีความเรียบเนียนและสม่ำเสมอ

3. ชั้นฐานล่าง (Backing Layer หรือ Bottom Layer)

   • เป็นชั้นที่อยู่ด้านล่างสุด มักทำจากไม้อัดบางๆ หรือแผ่นไม้อื่นๆ
   • มีหน้าที่ช่วยเสริมความแข็งแรง ป้องกันความชื้นจากด้านล่าง และช่วยให้พื้นบันไดมีความสมดุล

คุณสมบัติและข้อดีของบันไดไม้เอ็นจิเนียร์

• ความสวยงามและลวดลายธรรมชาติของไม้จริง บันไดไม้เอ็นจิเนียร์ให้ความรู้สึกของไม้แท้ ด้วยลวดลายและพื้นผิวที่เป็นธรรมชาติ
• ความแข็งแรงและทนทาน โครงสร้างหลายชั้นของบันไดไม้เอ็นจิเนียร์ช่วยลดปัญหาการโก่งตัวและแตกร้าวเมื่อเทียบกับไม้จริง
• ราคาเหมาะสม เมื่อเปรียบเทียบกับบันไดไม้เนื้อแข็ง บันไดไม้เอ็นจิเนียร์มีราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่า แต่ยังคงให้ความสวยงามและคุณภาพที่ดี
• ทนต่อความชื้น เนื่องจากมีชั้นป้องกันความชื้น ทำให้ไม้ไม่บวมพองเมื่อเจอกับสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง

การเลือกซื้อบันไดไม้เอ็นจิเนียร์

ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อ

• เลือกจากประเภทของไม้ ควรเลือกไม้ที่เหมาะกับสไตล์การตกแต่งบ้าน
• เลือกขนาดและความหนา ความหนาของบันไดส่งผลต่อความแข็งแรง ควรเลือกให้เหมาะสมกับโครงสร้างบ้าน
• เลือกสีและการทำสี บางประเภทมีสีสำเร็จรูป บางประเภทสามารถทำสีเพิ่มเติมได้ตามต้องการ

• การติดตั้งบันไดไม้เอ็นจิเนียร์ โดยทั่วไปกรรมวิธีการติดตั้งจะแยกตามโครงสร้างบันไดที่รองรับเป็นหลัก เช่น บันไดโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก, บันไดโครงสร้างเหล็ก
• การยึดติดตั้งบันไดไม้เอ็นจิเนียร์ จะใช้กาวตะปู สำหรับ บันไดโครงสร้างคอนกรีต และ บันไดโครงสร้างเหล็ก
• การติดตั้งบันไดไม้เอ็นจิเนียร์ บนบันไดโครงสร้างคอนกรีตด้วยกาวตะปู เป็นวิธีการที่นิยมใช้กัน เนื่องจากมีความสะดวก รวดเร็ว และให้ผลลัพธ์ที่แข็งแรง
• การยึดติดตั้ง ด้วยปูนกาว เหมาะสำหรับบันไดโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก เท่านั้น
• เพื่อความเป็นระเบียบและคุณภาพของงานติดตั้ง บันไดไม้เอ็นจิเนียร์ควรได้รับการทำสีให้แล้วเสร็จก่อนดำเนินการติดตั้ง

การติดตั้งบันไดไม้เทียมเอ็นจิเนียร์ มีขั้นตอนดังนี้

1. เตรียมพื้นผิวทำความสะอาดพื้นผิวคอนกรีตให้สะอาด ปราศจากฝุ่นผง เศษปูน หรือคราบสกปรกต่างๆ หากพื้นผิวคอนกรีตไม่เรียบเสมอกัน หรือมีรอยแตก ควรปรับระดับและซ่อมแซมให้เรียบร้อย เพื่อให้แผ่นบันไดไม้เอ็นจิเนียร์ติดตั้งได้แนบสนิท
2. วัดและตัดแผ่นไม้บันได วัดขนาดของบันไดแต่ละขั้นอย่างแม่นยำ ตัดแผ่นบันไดไม้เอ็นจิเนียร์ ให้ได้ขนาดตามที่วัดไว้ ควรเผื่อขนาดเล็กน้อยสำหรับการปรับแต่งในภายหลัง
3. ทากาวตะปูบนพื้นผิวคอนกรีตเป็นแนวเส้น หรือทาเป็นจุดๆ ให้ทั่วบริเวณที่จะติดตั้งแผ่นบันได ทากาวตะปูบนด้านหลังของแผ่นบันไดไม้เอ็นจิเนียร์ ด้วย ควรเลือกใช้กาวตะปูที่มีคุณภาพดี และเหมาะสมกับการใช้งาน
4. นำแผ่นบันไดไม้เอ็นจิเนียร์ ที่ทากาวแล้วมาวางบนพื้นผิวคอนกรีต กดแผ่นไม้บันได ให้แนบสนิทกับพื้นผิวคอนกรีต ใช้ค้อนยางเคาะเบาๆ เพื่อให้แผ่นไม้ WPC ติดแน่นยิ่งขึ้น
5. ติดตั้งลูกตั้ง (แผ่นไม้แนวตั้ง) ก่อน โดยทากาวตะปูและยึดกับโครงสร้างคอนกรีต ติดตั้งลูกนอน (แผ่นไม้แนวนอน) ตามลำดับ
6. เพื่อป้องกันการเคลื่อนตัวของบันไดไม้เอ็นจิเนียร์ ไม่ควรเหยียบหรือใช้งานไม้บันได ก่อน 24 ชั่วโมง
7. การยาแนวรอยต่อหลังจากกาวแห้งสนิทแล้ว ให้ยาแนวรอยต่อระหว่างแผ่นไม้กับพื้นผิวคอนกรีต และรอยต่อระหว่างแผ่นบันไดไม้เอ็นจิเนียร์เข้าด้วยกัน เลือกใช้ยาแนวที่มีความยืดหยุ่น และทนทานต่อสภาพอากาศ

สำหรับการติดตั้งบันไดเอ็นจิเนียร์ บนบันไดโครงสร้างเหล็ก ด้วยกาวตะปู ใช้ขั้นตอนในการติดตั้งแบบเดียวกัน โดยทากาวตะปูบนพื้นโครงสร้างเหล็ก

การดูแลรักษาบันไดไม้เอ็นจิเนียร์อย่างถูกวิธีจะช่วยยืดอายุการใช้งาน รักษาความสวยงาม และคงความแข็งแรงของบันไดไว้ได้นาน
การดูแลรักษาบันไดไม้เอ็นจิเนียร์นั้นคล้ายคลึงกับการดูแลรักษาบันไดไม้จริง เพียงแต่ต้องการความเอาใจใส่ในรายละเอียดอีกเล็กน้อย เพื่อคงความงามและความทนทานที่ยาวนาน

1. ทำความสะอาดเป็นประจำ กวาดหรือดูดฝุ่น ทำความสะอาดฝุ่นผง เศษผง หรือสิ่งสกปรกต่างๆ บนบันไดอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรกสะสมและขีดข่วนผิวหน้าไม้บันไดเอ็นจิเนียร์
2. เช็ดทำความสะอาด ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เนื้อนุ่มชุบน้ำหมาดๆ เช็ดทำความสะอาดคราบสกปรกเล็กน้อย หรือรอยเท้า หากมีคราบฝังแน่น สามารถใช้น้ำยาทำความสะอาดพื้นไม้สูตรอ่อนโยนที่แนะนำสำหรับไม้เอ็นจิเนียร์ หลีกเลี่ยงน้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์กัดกร่อน
3. ระวังอย่าให้น้ำหกหรือขังบนพื้นผิวบันไดไม้เอ็นจิเนียร์เป็นเวลานาน เพราะอาจทำให้ความชื้นซึมเข้าไปในชั้นไม้และเกิดความเสียหายได้ หากน้ำหกควรรีบเช็ดให้แห้งทันที
4. หลีกเลี่ยงรองเท้าส้นสูงหรือรองเท้าที่มีพื้นแข็ง การเดินด้วยรองเท้าเหล่านี้อาจทำให้เกิดรอยบุบหรือรอยขีดข่วนบนผิวบันไดได้ ระมัดระวังในการเคลื่อนย้ายสิ่งของ
   เมื่อเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์หรือสิ่งของขนาดใหญ่บนบันได ควรระมัดระวังไม่ให้กระแทกหรือขูดขีดผิวบันได หากจำเป็น ควรหาวัสดุมาห่อหุ้มหรือรองกันกระแทก การลากสิ่งของบนบันไดโดยตรงอาจทำให้เกิดรอยขีดข่วนได้ ควรยกหรือใช้อุปกรณ์ช่วยเคลื่อนย้าย
5. การควบคุมสภาพแวดล้อม เช่น การควบคุมความชื้น แม้ว่าไม้เอ็นจิเนียร์จะทนต่อความชื้นได้ดีกว่าไม้จริง แต่การรักษาความชื้นในบ้านให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม (ประมาณ 40-60%) จะช่วยป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับไม้ได้ หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง การปล่อยให้บันไดไม้เอ็นจิเนียร์โดนแสงแดดจัดโดยตรงเป็นเวลานาน อาจทำให้สีซีดจางได้ ควรติดตั้งม่านหรือมูลี่เพื่อกรองแสง
6. การบำรุงรักษาเฉพาะจุด สำหรับรอยขีดข่วนเล็กน้อย สามารถใช้ปากกาแต้มสี หรือน้ำยาซ่อมแซมรอยขีดข่วนสำหรับพื้นไม้เอ็นจิเนียร์แต้มเพื่อปกปิดร่องรอยตรวจสอบความมั่นคง ของ ลูกนอน ลูกตั้ง และราวบันไดเป็นระยะ หากพบว่ามีการคลอนหรือหลวม ควรทำการแก้ไขหรือแจ้งช่างผู้ชำนาญมาตรวจสอบ